JCUSER-IC8sJL1q
JCUSER-IC8sJL1q2025-06-05 14:51

ไมโครสเตรทีจีกับการเปลี่ยนแปลงราคาของบิตคอยน์มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?

ความสัมพันธ์ระหว่าง MicroStrategy กับความผันผวนของราคาบิทคอยน์คืออะไร?

MicroStrategy ได้กลายเป็นชื่อที่โดดเด่นในวงการคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการลงทุนจำนวนมากในบิทคอยน์ ในฐานะบริษัทด้านธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล (Business Intelligence) การเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน นักวิเคราะห์ และหน่วยงานกำกับดูแล การเข้าใจว่าการดำเนินการของ MicroStrategy ส่งผลต่อราคาบิทคอยน์อย่างไร จำเป็นต้องพิจารณากลยุทธ์การลงทุน ท่าทีของผู้นำ และผลกระทบต่อตลาด

การเข้าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีของ MicroStrategy

เส้นทางของ MicroStrategy เข้าสู่ตลาดบิทคอยน์เริ่มต้นขึ้นในเดือนสิงหาคม 2020 เมื่อประกาศซื้อบิทคอยน์จำนวน 21,000 BTC มูลค่าประมาณ 250 ล้านดอลลาร์ สร้างความสนใจเป็นพิเศษเพราะนี่เป็นหนึ่งในกรณีแรกๆ ที่บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่นำบิทคอยน์มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์คลังสำรองแทนที่จะถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือกหรือการลงทุนเชิงเก็งกำไร การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของบิทคอยน์ในการเก็บมูลค่าและป้องกันภาวะเงินเฟ้อ

แนวทางเชิงกลยุทธ์นี้ได้รับแรงผลักดันจาก CEO Michael Saylor ซึ่งมีเสียงสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อสกุลเงินคริปโต Saylor มองว่าบิทคอยน์ไม่ใช่เพียงแค่สินทรัพย์เท่านั้น แต่ยังเป็นรูปแบบเงินที่เหนือกว่าสกุลเงิน fiat แบบเดิมอีกด้วย ภาวะผู้นำของเขามีบทบาทสำคัญในการสร้างแนวคิดและแนวทางให้กับ MicroStrategy รวมถึงส่งเสริมให้บริษัทอื่นๆ พิจารณาการลงทุนในลักษณะเดียวกัน

ผลกระทบที่ MicroStrategy มีต่อพลวัตตลาด Bitcoin

หลังจากซื้อครั้งแรกแล้ว MicroStrategy ยังคงสะสม Bitcoin เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสิ้นปี 2020 ถือครองกว่า 70,000 BTC มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญตามมูลค่าปัจจุบัน การซื้อขายขนาดใหญ่เหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์ตลาดและพลวัตด้านอุปสงค์

  • การซื้อโดยสถาบัน — โดยเฉพาะจากบริษัทชั้นนำ เช่น MicroStrategy มักทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นความมั่นใจแก่นักลงทุนทั่วไป เมื่อบริษัทเปิดเผยข้อมูลหรือเพิ่มยอดสะสม ก็สามารถสร้างแรงส่งเชิงบวก ทำให้เกิดวงจรคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและราคาพุ่งสูงขึ้นบนแพลตฟอร์มต่างๆ
  • แรงเสียดถีงด้านสื่อ — การรายงานข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มความสนใจประชาชนต่อสถานะของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ระดับองค์กร เมื่อมีหลายบริษัทติดตามหรือแสดงเจตจำนงค์คล้ายกัน แนวโน้มนี้สามารถสร้างแรงกดดันให้ราคาขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ผลกระทงทางการเงินสำหรับ MicroStrategy

รายงานทางการเงินสะท้อนว่าความโชว์ฟอร์มร่วมกับราคา Bitcoin มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด เช่น:

  • ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020: แม้ว่าจะรายงานขาดทุนสุทธิประมาณ $1.4 ล้าน,
  • แต่ยอดถือครองกลับมีมูลค่าประมาณ $1.3 พันล้าน ณ สิ้นปี,

ซึ่งชี้ให้เห็นถึงกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Gains) จากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ของ cryptocurrencies เหล่านี้

ภาวะแบบสองด้านนี้เน้นทั้งโอกาสและความเสี่ยง: ราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นช่วยเพิ่มมูลค่าของบริษัทผ่านสินทรัพย์ crypto ที่ถืออยู่—ซึ่งอาจทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์—แต่ก็เปิดช่องรับความผันผวนซึ่งธรรมชาติอยู่แล้วในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีด้วยเช่นกัน

อารมณ์ตลาด & สิ่งแวดล้อมด้านกฎระเบียบ

อารมณ์ตลาดมีบทบาทสำคัญในการเข้าใจว่าการดำเนินกิจกรรมโดยไมโครเทรเจอรี ส่งผลต่อราคาโดยรวมอย่างไร:

  • เมื่อผู้นำระดับสูง เช่น Michael Saylor ให้คำรับรองหรือเพิ่มจำนวน holdings,
  • จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน,
  • ทำให้เกิดกิจกรรมซื้อขายมากขึ้นทั่วทั้งตลาด,

ซึ่งบางครั้งก็สามารถทำให้ราคาขึ้นไปชั่วขณะหนึ่งได้ อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญ:

  • ข้อถกเถียงเรื่องข้อกำหนดเกี่ยวกับ cryptocurrency อาจส่งผลต่อนโยบายองค์กร หรือแม้แต่ข้อจำกัดในการถือครอง
  • แม้ตอนนี้ไม่มีเหตุการณ์ใดที่เปลี่ยนแปลงทันที แต่อนาคตนโยบายใหม่ ๆ อาจเปิดโอกาสให้องค์กรเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม หรือล็อกดาว์นอาจทำให้อุตสาหกรรมต้องเผชิญกับภาวะขายออกฉับพลันทันทีก็ได้

ความเสี่ยงจากการถือหุ้นใหญ่โดยองค์กรธุรกิจ

แม้ว่าการลงขันระดับมหึมาเหล่านี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านอุปสงค์ช่วงเวลาหนึ่ง ด้วยเครื่องหมายว่าองค์กรต่าง ๆ เชื่อมั่นในศักยภาพ Crypto assets นี้ แต่ก็มีข้อควรรู้ดังนี้:

ความเสี่ยงด้าน Volatility

Bitcoin เป็นเหรียญที่รู้จักดีเรื่องความผันผวนสูง ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันทําให้องค์กรผู้ถือไว้จำนวนมาก ต้องเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดภาวะแรงขายฉุกเฉินช่วง downturns ซึ่งอาจนำไปสู่อัตราขาดทุนได้ง่ายหากไม่มีมาตรการบริหารจัดการดีพอ

ปัญหา Liquidity

หากหลายองค์กรร่วมมือกันสะสมตำแหน่งใหญ่โดยไม่ได้เตรียมกลยุทธจัดการ risiko อย่างเหมาะสม ก็อาจพบปัญหาเมื่อจำเป็นต้องขายออกเร็ว ๆ ในช่วงวิกฤติ ตลาดจะตกต่ำลงอีก ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

ความเสียชื่อเสียง (Reputational Risks)

เมื่อองค์กรใหญ่ ๆ อย่างไมโครเทรเจอาร์รี่ ลงทุนหนัก แล้วราคา bitcoin ดิ่งลง หรือถูกตรวจสอบเรื่อง regulation ก็สามารถส่งผลเสียชื่อเสียงแก่แบรนด์ รวมถึงภาพลักษณ์ทั้งระบบได้ หากไม่ได้บริหารจัดการดีพอก็จะถูกโจษจั่นว่า “ผิดหวัง” หรือ “เสียหาย”

วิธีรูปแบบอนาคตสำหรับ Cryptocurrency ผ่าน Adoption ของภาคธุรกิจ

Microstrategy เป็นตัวอย่างว่า วิธีที่องค์กรมาลงทุนและใช้งาน cryptocurrencies ไม่ใช่เพียงเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนแนวมุมโลกแห่ง crypto ไปสู่วงจรรอบใหม่แห่ง acceptance และ maturity ได้ด้วย:

  1. Confidence in Market: การเข้าถือหุ้นระดับองค์กรมอบเครดิต เพิ่ม credibility ให้แก่ระบบเศรษฐกิจ crypto
  2. Price Stability: ความต้องการจากองค์กรชั้นนำ ช่วยลด volatility ระยะสั้น
  3. Regulatory Focus: กระตุ้นหน่วยงาน regulator ทั่วโลก ให้พัฒนากฎเกณฑ์เพื่อรองรับ crypto-assets มากขึ้น
  4. Market Maturity: ยิ่งมีหลาย บริษัทใช้ cryptocurrencies อย่างตั้งใจ ไม่ใช่เพียงเก็งกำไรแต่เพื่อ strategic holding เท่านั้น ยิ่งทำให้อุตสาหกรรมเติบโตเต็มวัย สู่มาตรฐานกลาง (Mainstream)

คำสุดท้าย: ติดตามปัจจัยหลักที่จะเปลี่ยนเกมไปข้างหน้า

พันธกิจระหว่าง บริษัท เช่น microstrategy กับ ราคาบิตคอยน์นั้น ซับซ้อนแต่เต็มไปด้วยผลกระทง; ทั้งสองฝ่ายต่างใช้มันเพื่อส่งข้อความถึงนักลงทุน ว่า “ไว้วางใจ” และ “พร้อมเดินหน้าต่อ” ตลาดเองก็ถูกขับเคลื่อนด้วยสิ่งเหล่านี้ ควบคู่ไปกับข่าวสาร กฎหมาย และแนวนโยบายใหม่ๆ ที่จะปรับเปลี่ยนอัตราแลกเปลี่ยนคริปโตฯ ไปตามเวลา

สาระสำคัญ:

  • การซื้อขายระดับมหึมาโดยองค์กร ส่งผลต่อตลาดทั้ง supply & demand
  • คำพูดยืนยันจากหัวหน้า บริหาร แรงสนับสนุน ช่วยสร้าง confidence
  • กฎระเบียบ จะกลายเป็นหัวข้อหลักที่จะควบคู่ไปกับวิวัฒนาการ
  • ความผันผวนสูง ยังอยู่คู่คนเล่น Crypto อยู่ดี ถึงแม้จะมี institutional backing ก็ตาม

เข้าใจกระแสร่วมเหล่านี้ พร้อม macroeconomic trends แล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่เช่น microstrategy จะยังเดินหน้าทำหน้าที่ shaping future bitcoin price fluctuations ต่อไป พร้อมเปิดโอกาสและภัยภัย inherent ในโลกเศรษฐกิจใหม่ใบนี้

8049
0
0
0
Background
Avatar

JCUSER-IC8sJL1q

2025-06-11 17:36

ไมโครสเตรทีจีกับการเปลี่ยนแปลงราคาของบิตคอยน์มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?

ความสัมพันธ์ระหว่าง MicroStrategy กับความผันผวนของราคาบิทคอยน์คืออะไร?

MicroStrategy ได้กลายเป็นชื่อที่โดดเด่นในวงการคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการลงทุนจำนวนมากในบิทคอยน์ ในฐานะบริษัทด้านธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล (Business Intelligence) การเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน นักวิเคราะห์ และหน่วยงานกำกับดูแล การเข้าใจว่าการดำเนินการของ MicroStrategy ส่งผลต่อราคาบิทคอยน์อย่างไร จำเป็นต้องพิจารณากลยุทธ์การลงทุน ท่าทีของผู้นำ และผลกระทบต่อตลาด

การเข้าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีของ MicroStrategy

เส้นทางของ MicroStrategy เข้าสู่ตลาดบิทคอยน์เริ่มต้นขึ้นในเดือนสิงหาคม 2020 เมื่อประกาศซื้อบิทคอยน์จำนวน 21,000 BTC มูลค่าประมาณ 250 ล้านดอลลาร์ สร้างความสนใจเป็นพิเศษเพราะนี่เป็นหนึ่งในกรณีแรกๆ ที่บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่นำบิทคอยน์มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์คลังสำรองแทนที่จะถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือกหรือการลงทุนเชิงเก็งกำไร การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของบิทคอยน์ในการเก็บมูลค่าและป้องกันภาวะเงินเฟ้อ

แนวทางเชิงกลยุทธ์นี้ได้รับแรงผลักดันจาก CEO Michael Saylor ซึ่งมีเสียงสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อสกุลเงินคริปโต Saylor มองว่าบิทคอยน์ไม่ใช่เพียงแค่สินทรัพย์เท่านั้น แต่ยังเป็นรูปแบบเงินที่เหนือกว่าสกุลเงิน fiat แบบเดิมอีกด้วย ภาวะผู้นำของเขามีบทบาทสำคัญในการสร้างแนวคิดและแนวทางให้กับ MicroStrategy รวมถึงส่งเสริมให้บริษัทอื่นๆ พิจารณาการลงทุนในลักษณะเดียวกัน

ผลกระทบที่ MicroStrategy มีต่อพลวัตตลาด Bitcoin

หลังจากซื้อครั้งแรกแล้ว MicroStrategy ยังคงสะสม Bitcoin เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสิ้นปี 2020 ถือครองกว่า 70,000 BTC มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญตามมูลค่าปัจจุบัน การซื้อขายขนาดใหญ่เหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์ตลาดและพลวัตด้านอุปสงค์

  • การซื้อโดยสถาบัน — โดยเฉพาะจากบริษัทชั้นนำ เช่น MicroStrategy มักทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นความมั่นใจแก่นักลงทุนทั่วไป เมื่อบริษัทเปิดเผยข้อมูลหรือเพิ่มยอดสะสม ก็สามารถสร้างแรงส่งเชิงบวก ทำให้เกิดวงจรคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและราคาพุ่งสูงขึ้นบนแพลตฟอร์มต่างๆ
  • แรงเสียดถีงด้านสื่อ — การรายงานข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มความสนใจประชาชนต่อสถานะของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ระดับองค์กร เมื่อมีหลายบริษัทติดตามหรือแสดงเจตจำนงค์คล้ายกัน แนวโน้มนี้สามารถสร้างแรงกดดันให้ราคาขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ผลกระทงทางการเงินสำหรับ MicroStrategy

รายงานทางการเงินสะท้อนว่าความโชว์ฟอร์มร่วมกับราคา Bitcoin มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด เช่น:

  • ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020: แม้ว่าจะรายงานขาดทุนสุทธิประมาณ $1.4 ล้าน,
  • แต่ยอดถือครองกลับมีมูลค่าประมาณ $1.3 พันล้าน ณ สิ้นปี,

ซึ่งชี้ให้เห็นถึงกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Gains) จากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ของ cryptocurrencies เหล่านี้

ภาวะแบบสองด้านนี้เน้นทั้งโอกาสและความเสี่ยง: ราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นช่วยเพิ่มมูลค่าของบริษัทผ่านสินทรัพย์ crypto ที่ถืออยู่—ซึ่งอาจทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์—แต่ก็เปิดช่องรับความผันผวนซึ่งธรรมชาติอยู่แล้วในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีด้วยเช่นกัน

อารมณ์ตลาด & สิ่งแวดล้อมด้านกฎระเบียบ

อารมณ์ตลาดมีบทบาทสำคัญในการเข้าใจว่าการดำเนินกิจกรรมโดยไมโครเทรเจอรี ส่งผลต่อราคาโดยรวมอย่างไร:

  • เมื่อผู้นำระดับสูง เช่น Michael Saylor ให้คำรับรองหรือเพิ่มจำนวน holdings,
  • จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน,
  • ทำให้เกิดกิจกรรมซื้อขายมากขึ้นทั่วทั้งตลาด,

ซึ่งบางครั้งก็สามารถทำให้ราคาขึ้นไปชั่วขณะหนึ่งได้ อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญ:

  • ข้อถกเถียงเรื่องข้อกำหนดเกี่ยวกับ cryptocurrency อาจส่งผลต่อนโยบายองค์กร หรือแม้แต่ข้อจำกัดในการถือครอง
  • แม้ตอนนี้ไม่มีเหตุการณ์ใดที่เปลี่ยนแปลงทันที แต่อนาคตนโยบายใหม่ ๆ อาจเปิดโอกาสให้องค์กรเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม หรือล็อกดาว์นอาจทำให้อุตสาหกรรมต้องเผชิญกับภาวะขายออกฉับพลันทันทีก็ได้

ความเสี่ยงจากการถือหุ้นใหญ่โดยองค์กรธุรกิจ

แม้ว่าการลงขันระดับมหึมาเหล่านี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านอุปสงค์ช่วงเวลาหนึ่ง ด้วยเครื่องหมายว่าองค์กรต่าง ๆ เชื่อมั่นในศักยภาพ Crypto assets นี้ แต่ก็มีข้อควรรู้ดังนี้:

ความเสี่ยงด้าน Volatility

Bitcoin เป็นเหรียญที่รู้จักดีเรื่องความผันผวนสูง ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันทําให้องค์กรผู้ถือไว้จำนวนมาก ต้องเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดภาวะแรงขายฉุกเฉินช่วง downturns ซึ่งอาจนำไปสู่อัตราขาดทุนได้ง่ายหากไม่มีมาตรการบริหารจัดการดีพอ

ปัญหา Liquidity

หากหลายองค์กรร่วมมือกันสะสมตำแหน่งใหญ่โดยไม่ได้เตรียมกลยุทธจัดการ risiko อย่างเหมาะสม ก็อาจพบปัญหาเมื่อจำเป็นต้องขายออกเร็ว ๆ ในช่วงวิกฤติ ตลาดจะตกต่ำลงอีก ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

ความเสียชื่อเสียง (Reputational Risks)

เมื่อองค์กรใหญ่ ๆ อย่างไมโครเทรเจอาร์รี่ ลงทุนหนัก แล้วราคา bitcoin ดิ่งลง หรือถูกตรวจสอบเรื่อง regulation ก็สามารถส่งผลเสียชื่อเสียงแก่แบรนด์ รวมถึงภาพลักษณ์ทั้งระบบได้ หากไม่ได้บริหารจัดการดีพอก็จะถูกโจษจั่นว่า “ผิดหวัง” หรือ “เสียหาย”

วิธีรูปแบบอนาคตสำหรับ Cryptocurrency ผ่าน Adoption ของภาคธุรกิจ

Microstrategy เป็นตัวอย่างว่า วิธีที่องค์กรมาลงทุนและใช้งาน cryptocurrencies ไม่ใช่เพียงเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนแนวมุมโลกแห่ง crypto ไปสู่วงจรรอบใหม่แห่ง acceptance และ maturity ได้ด้วย:

  1. Confidence in Market: การเข้าถือหุ้นระดับองค์กรมอบเครดิต เพิ่ม credibility ให้แก่ระบบเศรษฐกิจ crypto
  2. Price Stability: ความต้องการจากองค์กรชั้นนำ ช่วยลด volatility ระยะสั้น
  3. Regulatory Focus: กระตุ้นหน่วยงาน regulator ทั่วโลก ให้พัฒนากฎเกณฑ์เพื่อรองรับ crypto-assets มากขึ้น
  4. Market Maturity: ยิ่งมีหลาย บริษัทใช้ cryptocurrencies อย่างตั้งใจ ไม่ใช่เพียงเก็งกำไรแต่เพื่อ strategic holding เท่านั้น ยิ่งทำให้อุตสาหกรรมเติบโตเต็มวัย สู่มาตรฐานกลาง (Mainstream)

คำสุดท้าย: ติดตามปัจจัยหลักที่จะเปลี่ยนเกมไปข้างหน้า

พันธกิจระหว่าง บริษัท เช่น microstrategy กับ ราคาบิตคอยน์นั้น ซับซ้อนแต่เต็มไปด้วยผลกระทง; ทั้งสองฝ่ายต่างใช้มันเพื่อส่งข้อความถึงนักลงทุน ว่า “ไว้วางใจ” และ “พร้อมเดินหน้าต่อ” ตลาดเองก็ถูกขับเคลื่อนด้วยสิ่งเหล่านี้ ควบคู่ไปกับข่าวสาร กฎหมาย และแนวนโยบายใหม่ๆ ที่จะปรับเปลี่ยนอัตราแลกเปลี่ยนคริปโตฯ ไปตามเวลา

สาระสำคัญ:

  • การซื้อขายระดับมหึมาโดยองค์กร ส่งผลต่อตลาดทั้ง supply & demand
  • คำพูดยืนยันจากหัวหน้า บริหาร แรงสนับสนุน ช่วยสร้าง confidence
  • กฎระเบียบ จะกลายเป็นหัวข้อหลักที่จะควบคู่ไปกับวิวัฒนาการ
  • ความผันผวนสูง ยังอยู่คู่คนเล่น Crypto อยู่ดี ถึงแม้จะมี institutional backing ก็ตาม

เข้าใจกระแสร่วมเหล่านี้ พร้อม macroeconomic trends แล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่เช่น microstrategy จะยังเดินหน้าทำหน้าที่ shaping future bitcoin price fluctuations ต่อไป พร้อมเปิดโอกาสและภัยภัย inherent ในโลกเศรษฐกิจใหม่ใบนี้

JuCoin Square

คำเตือน:มีเนื้อหาจากบุคคลที่สาม ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน
ดูรายละเอียดในข้อกำหนดและเงื่อนไข